Cloud Phone 9 คำน่ารู้ในแวดวงธุรกิจปี 2020

Cloud Phone 9 คำในแวดวงธุรกิจปี 2020 yalecom cloud phone Cloud Phone 9 คำน่ารู้ในแวดวงธุรกิจปี 2020 9                                                     2020 768x402

Cloud Phone หนึ่งในระบบโทรศัพท์ขององค์กรธุรกิจที่มาแรงในยุคนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การสื่อสารขององค์กรราบรื่น ประหยัดค่าใช้จ่าย และรองรับการใช้งานได้หลายอุปกรณ์  

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาแรงและเปลี่ยนแปลงไปของวงการธุรกิจในปีนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการทำงานและเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ 

YaleCom ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์บน Cloud หรือ Cloud Phone ได้รวบรวม ‘คำศัพท์’ ที่น่ารู้และมาแรงในแวดวงธุรกิจปี 2020 มาฝากสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ 

1. AI (Artificial Intelligence) หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด สามารถคิดวิเคราะห์ วางแผนและตัดสินใจได้ จากการประมวลผลของฐานข้อมูลแทนการใช้สมองของมนุษย์ ข้อดีคือมีการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำ จึงทำให้หลายอุตสาหกรรมได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ทำงานและตัดสินใจแทนมนุษย์ในบางเรื่อง

2. BCG Economy เป็นโมเดลทางเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่ต่อยอดมาจากโมเดลเดิมของรัฐบาล หลักๆ คือมุ่งเน้นเศรษฐกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ B คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) หรือการนำความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร C คือ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าที่สุด โดยมุ่งไปที่ Zero Waste หรือการลดปริมาณของเสียให้น้อยลงหรือเท่ากับศูนย์ ส่วน G คือ เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม  

3. Big Data หรือคลังข้อมูลจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลบริษัท ข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมของผู้บริโภค ไฟล์เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด Big Data จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจใช้ข้อมูลจากทุกแหล่งที่เป็นไปได้และวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ช่วยให้คุณเข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น ช่วยลดต้นทุน ลดระยะเวลาการดำเนินการ และสามารถตัดสินใจได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่นำเอา Big Data มาใช้ในส่วนองการขายและการตลาดของธุรกิจ

4. Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ซึ่งจะทำในรูปแบบออนไลน์ ข้อดีคือสามารถเข้าถึงได้หลายอุปกรณ์ เช่น ผ่านคอมพิวเตอร์  มือถือ แท็บเล็ตหรืออุปกรณ์อื่นๆ จึงทำให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดที่ต้องมีการใช้อินเตอร์เน็ต ย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับ Cloud Computing โดยการย้ายข้อมูลหรือแอปพลิเคชั่นเข้าสู่ระบบ Cloud อย่างรวดเร็ว และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคโนโลยีบน Cloud กับอนาคตที่สดใส

5. Cloud Phone ระบบโทรศัพท์บน Cloud ซึ่งเป็นระบบโทรศัพท์ยุคใหม่ที่เชื่อมต่อสัญญาณผ่านอินเตอร์เน็ต เหมาะสำหรับองค์กรยุคใหม่ที่ต้องการใช้เบอร์ 02 เป็นเบอร์หลัก ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ทำให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพ มีความทันสมัย สามารถวัดผลได้ สื่อสารถึงกันได้ทั่วโลกด้วยเสียงคมชัด ที่สำคัญเป็นระบบโทรศัพท์ที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรธุรกิจยุคใหม่ ทั้งภาพลักษณ์และการใช้งาน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด Cloud Phone จึงกลายเป็นระบบโทรศัพท์ที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่หันมานิยมใช้กัน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อดีของระบบโทรศัพท์บน Cloud 

6. Digital Disruption การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามามีผลกระทบต่อมิติต่างๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานใหม่ เส้นทาง อนาคต และวิถีชีวิตของผู้คนที่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็จะส่งผลกระทบกับผู้คนที่ไม่ปรับตัวด้วยเข่นเดียวกัน ทั้งนี้ Digital Disruption จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันของทีม

7. Flatter Organization เป็นโครงสร้างขององค์กรที่มีลำดับขั้นตอนการทำงานที่สั้นลง การทำงานจะเน้นความรวดเร็ว ฉับไว การประมวลผลข้อมูลเร็ว การสื่อสารเป็นไปอย่างรวบรัดและมีการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น โดยโครงสร้างองค์กรแบบ Flatter Organization นี้ จึงได้รับความนิยมในองค์กร แต่บางองค์กรก็ไม่เหมาะกับโครงการแบบนี้เช่นกัน

8. IoT การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการ ควบคุมใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ส่วนโทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ จะมีการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเกือบทั้งหมด

9. Remote Working การทำงานแบบอิสระ รูปแบบใหม่ของคน Gen Z เป็นแนวคิดใหม่ของการทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ แต่ต้องได้ผลลัพธ์คือการทำงานที่มีคุณภาพและตรงตามเป้าหมาย เป็นแนวคิดที่บางบริษัทได้มีการทำลองทำจริงแล้วค่อนข้างเกิดผลลัพธ์ที่ดี เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ชอบการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศหรือสถานที่เดิมๆ แต่ชอบการทำงานในมุมที่จะสามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด ข้อดีคืออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานและองค์กร โดยมีการวัดผลคือผลงานล้วนๆ และตัดปัญหายิบย่อยของการนินทา มาสาย ลาป่วยในการเข้างานอีกต่อไป ปัจจุบันบางองค์กรได้มีการนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ เช่น Google, Amazon เป็นต้น