ระบบโทรศัพท์ที่รองรับการทำงาน From Home เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบโทรศัพท์ที่เหมาะกับ Work From Home yalecom ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรศัพท์ที่รองรับการทำงาน From Home เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด Work From Home yalecom 768x402

ระบบโทรศัพท์ ที่รองรับกับการทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ในช่วงสถานการณ์ของโรค Covid-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกนั้น ควรเป็นระบบโทรศัพท์ที่มีเสถียรภาพสูง มีสัญญาณที่คมชัด และเอื้อต่อการทำงานในรูปแบบของการทำงานทางไกลหรือ Telework  

ในความเป็นจริงแล้ว Work From Home นั้น ก็คือการทำงานทางไกล (Telework) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเมื่อหลายปีก่อน ด้วยสภาพของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายดาย การเชื่อมต่อระหว่างกันจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีเดสก์ท็อป สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรืออุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็สามารถทำให้คุณทำงานทางไกลได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

นอกจากนี้ ยังเป็นที่เชื่อกันว่า การทำงานทางไกลนั้นเป็นการทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูง และจะทำให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทางมาทำงาน ต้องผจญกับการจราจรติดขัด ทำให้มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานมากขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ปัจจุบัน เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมของคนยุค Gen X- Gen Z

อย่างไรก็ตาม Work From Home อาจจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลสำหรับมนุษย์ทำงานที่มีความรับผิดชอบในตัวเองสูง ในขณะเดียวกันก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีวินัยเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจากสถาบัน U.S Census Bureau ระบุไว้ว่า ชาวอเมริกันเป็นชาติที่นิยมเอางานกลับไปทำที่บ้าน 1 วันต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ รายงานจาก Reuters ระบุว่า ในจำนวนพนักงาน 5 คน จะมี 1 คนที่ทำงานทางไกลในสัปดาห์ของการทำงาน (ปี 2012) สำหรับประเทศที่ได้รับความนิยมสูงในการทำงานทางไกลนั้น คือ สวีเดน ไอซ์แลนด์ สหราชอาณาจักร คิดเป็น 25% ที่นิยมทำงานจากที่บ้าน

ในขณะที่สเปนคิดเป็น 3% แม้ว่าบริษัทในสเปนมีจำนวนสูงถึง 27% ที่ให้ข้อมูลว่า พยายามจะให้พนักงาน Work From Home แต่ก็ยังไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จมากนัก ส่วนข้อมูลจาก Linkedln ในปี 2017 ระบุว่า จำนวนของคนทำงานจากที่บ้านในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนตุลาคม มีจำนวนสูงขึ้น 24% เมื่อเปรียบเทียบจากปี 2016

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์ของการเกิดโรคระบาด Covid-19 เพื่อให้การทำงานที่บ้านในช่วงเวลานี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่เราอยากแนะนำเมื่อคุณต้อง Work From Home

  1. ใช้แพลตฟอร์มสำหรับการประชุมทางโทรศัพท์ (Teleconference) และการประชุมออนไลน์ เช่น Skype, Zoom และ WebEx แพลตฟอร์มต่างๆ เหล่านี้ ช่วยทำให้คุณจัดการประชุมกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสร้างการเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานเสมือนนั่งทำงานอยู่ด้วยกัน
  2. ใช้ระบบโทรศัพท์ ที่มีฟังก์ชั่นรองรับการสื่อสารทางไกลได้อย่างครอบคลุม เช่น ระบบโทรศัพท์ YaleCom ที่โทรฟรีหากันในระบบ YaleCom เหมือนกัน รวมทั้งมีฟังก์ชั่นที่ใช้ประชุมสายกันได้ เพียงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้สร้างห้องประชุมออนไลน์ คุณก็สามารถประชุมสายกันได้โดยไม่จำกัดจำนวนสาย
  3. สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านให้เอื้อต่อการทำงาน เช่น มีโต๊ะทำงานที่นั่งสบาย Wi-fi พร้อม มีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการใช้ความคิดสร้างสรรค์งาน
  4. ใช้ที่อุดหูฟัง หากที่บ้านมีสมาชิกครอบครัวอยู่รวมกันหลายคน อาจแจ้งให้ทุกคนในบ้านทราบถึงช่วงเวลาที่ต้องนั่งทำงาน และต้องการสมาธิในการทำงาน เช่น ตั้งแต่ 9.00-18.00 น.
  5. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อเป็นผู้ช่วยในการทำงานจากที่บ้าน อาทิ Trello หรือกระดานบอร์ดที่แสดงขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงสิ้นสุดการทำงาน ช่วยให้ทีมงานเห็นการทำงานแบบภาพรวมทั้งหมดของแผนก สามารถเก็บได้ทั้งข้อความ ภาพ ไฟล์งานต่างๆ, Google Drive แอปพลิเคชันจัดการเอกสารร่วมกันแบบเรียลไทม์, Google Hangouts เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการประชุมออนไลน์ในรูปแบบ VDO Call โดยผู้ร่วมประชุมสามารถแชร์เอกสาร Google Drive, Google Docs หรือหน้าจอที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ในคนในทีมได้ทันที เป็นต้น

ไม่ว่าคุณจะทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการติดต่อระหว่างกัน ต้องสะดวก รวดเร็ว มีสัญญาณที่มีเสถียรภาพสูง เพื่อให้การทำงานและการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น YaleCom ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์สำนักงานบน Cloud เป็นระบบโทรศัพท์ยุคใหม่ที่ใช้เบอร์ 02 ผ่านอินเตอร์เน็ต โทรหากันฟรีในระบบ YaleCom เหมือนกัน ด้วยสัญญาณคมชัด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถรองรับการประชุมสายร่วมกันได้หลายสาย มีระบบบันทึกเสียงสนทนา พร้อมรายการการโทรเข้าและโทรออก รวมทั้งเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย รองรับการทำงานจากที่บ้านและทุกที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ