ระบบโทรศัพท์ 10 ธุรกิจ (ขนาดเล็ก) มาแรง ที่น่าจับตาปี 2020

ระบบโทรศัพท์ 10 ธุรกิจมาแรง 2020 yalecom ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรศัพท์ 10 ธุรกิจ (ขนาดเล็ก) มาแรง ที่น่าจับตาปี 2020                                      10                    yalecom 768x402

ระบบโทรศัพท์ยุคใหม่และเทรนด์ของการทำธุรกิจในปีหน้านี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงไป โดยองค์กรใหญ่ๆ จะเริ่มปรับขนาดให้เล็กลง เพื่อควบคุมต้นทุนและการจ้างงาน ส่วนระบบโทรศัพท์ ก็จะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต ที่มีความทันสมัยและประหยัดค่าใช้จ่าย 

ว่ากันว่า ระบบโทรศัพท์ในปีหน้าฟ้าใหม่ รวมทั้งธุรกิจที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น จะเริ่มมีขนาดองค์กรที่เล็กลง แต่มุ่งเน้นบริการที่เฉพาะเจาะจงให้แก่ลูกค้าหรือที่เรียกว่าเป็นตลาด Niche Market มากขึ้น

และต่อไปนี้คือ 10 เทรนด์ของธุรกิจยุคใหม่ ที่คาดว่าจะไปได้สวยในปี 2020 Yalecom ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์บน Cloud ได้รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว

  1. ธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าเฉพาะบุคคล

Gartner บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก ระบุว่า ในปี 2020 ธุรกิจจะมุ่งเน้นการให้บริการเฉพาะบุคคล เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งเจ้าของธุรกิจควรนำไปปรับใช้กับธุรกิจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น เมื่อคุณเคยซื้อสินค้าในเว็บไซต์ Amazon คุณจะเห็นผลิตภัณฑ์แนะนำ ซึ่งอยู่ในประเภทเดียวกันกับสินค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ เผื่อเป็นตัวเลือกว่าคุณจะสนใจ ปัจจุบัน เว็บไซต์ช็อปปิ้งต่างๆ ก็มีการปรับตัวในรูปแบบดังกล่าว เพื่อสร้างความประทับใจและช่วยให้ลูกค้าค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น นอกเหนือไปจากธุรกิจเกี่ยวกับ E-Commerce แล้ว ธุรกิจด้านการติดต่อสื่อสารหรือระบบโทรศัพท์ ยังถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองเฉพาะรายอีกด้วย อาทิ ระบบโทรศัพท์บน Cloud อีกหนึ่งบริการสำหรับองค์กรยุคใหม่ ที่ต้องการใช้เบอร์ 02 สำหรับสำนักงาน คลิกอ่านเพิ่มเติม Yalecom บริการโทรศัพท์ยุคใหม่บน Cloud

   2. AI ช่วยทำงาน แต่ไม่ได้แทนที่แรงงานคน

AI (Artificial Intelligence) หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นเพียงสิ่งที่ช่วยให้งานเป็นระบบ ลดความผิดพลาด และช่วยให้การบริการรวดเร็วทันใจ แต่ AI ไม่สามารถเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ได้ในแง่ของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาทิ เมื่อลูกค้าไม่เข้าใจหรือเกิดปัญหาการใช้บริการของธุรกิจ พวกเขาย่อมต้องการพูดคุยและปรึกษากับ ‘คน’ มากกว่า ‘หุ่นยนต์’ เจ้าของธุรกิจจึงต้องเลือกใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างชาญฉลาด รู้จักใช้ให้ถูกทาง เพื่อให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพและได้รับความประทับใจจากลูกค้า

  1. รีวิวจากลูกค้าคือหัวใจสำคัญ

เพราะการรีวิวผลิตภัณฑ์จากผู้ใช้จริง คือข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือมากกว่าการโฆษณาชวนเชื่อ และผู้บริโภคในยุคนี้ก็รู้จักที่จะ ‘เลือก’ มากขึ้น จึงมีแนวโน้มสูงที่พวกเขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากการดูรีวิวมากกว่าแค่อ่านคุณสมบัติผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว สำหรับธุรกิจขนาดย่อม ที่มีงบการตลาดไม่มาก การเลือกโฟกัสไปที่รีวิวสินค้าจากผู้ใช้จริงเป็นหลัก จะทำให้คุณได้เปรียบ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ และนำไปสู่ยอดขายที่สดใส

  1. Stories เข้ามาแทนที่ Newsfeed

เพียงแค่ 24 ชม.หรือ 1 วันในการโพสต์เรื่องราว Stories (แอปพลิเคชั่นวิดิโอโดย Snapchat) หรือวิดิโอที่มีเนื้อหาสั้นๆ บน Social Media เป็นทางเลือกและดึงดูดความน่าสนใจของผู้คนในยุคนี้ได้มากกว่าการโพสต์ภาพนิ่งบน Newsfeed เสียอีก เพราะคนยุคนี้ต้องการเนื้อหาที่ดูจริง เป็นเรียลไทม์ และเข้าใจง่ายจากการชมภาพมากกว่าการอ่าน ซึ่งการสร้างสรรค์เนื้อหาให้เป็น Stories นั้น ควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ไม่เยิ่นเย้อ

  1. การทำงานแบบอิสระเพิ่มสูงขึ้น

เพราะเทคโนโลยีที่ทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้น จึงทำให้คนหันมาทำงานแบบอิสระ ธุรกิจขนาดเล็กๆ จึงนิยมรับฟรีแลนซ์หรือพนักงานทำงานอิสระ เช่น ทำงาน 2-3 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมีข้อดีตรงที่ ทำให้เจ้าของธุรกิจเลือกจ้างคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ และถึงแม้ว่าตัวจะไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ ก็สามารถนั่งทำงานกับแลปท็อปและสมาร์ทโฟน ประชุมทางไกลผ่านวิดิโอ หรือใช้ Team Messaging Application ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน

  1. อาชีพ Gig Worker มาแรงแน่นอน

อาชีพ Gig Worker เทรนด์ใหม่ของคนเจน Y ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเงินดี มีอิสระ มีเวลาว่างไปทำสิ่งอื่น อีกทั้งองค์กรธุรกิจในยุคนี้ ต่างเริ่มลดการจ้างงานพนักงานประจำลง แต่กลับเพิ่มการจ้างพนักงานสัญญาจ้างระยะสั้นหรือฟรีแลนซ์เข้ามาทำงานมากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องผูกมัด ไม่ต้องจ่ายสวัสดิการ แต่ได้คุณสมบัติพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านตามที่ต้องการจริงๆ จึงทำให้อาชีพ Gig Worker  มาแรง และ Gig Economy ก็ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นด้วย

  1. ความสุขของพนักงานคือสิ่งสำคัญขององค์กร

การทำให้พนักงานมีความสุขและอยากมาทำงาน จะกลายเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจให้ความสำคัญ ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับการจ่ายเงินที่มากกว่า แต่เป็นการทำให้พวกเขารู้ว่ามีความสำคัญต่อองค์กร เพราะมีผลโดยตรงต่อการทำงาน นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมในที่ทำงานยังเป็นปัจจัยหลัก ที่ช่วยให้พนักงานผลิตงานที่ดีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงานทันสมัยภายใต้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น มีโต๊ะเล่นปิงปองหรือสิ่งกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

  1. Voice Recognition เสียงจะถูกแทนที่การพิมพ์ข้อความ

การค้นหาด้วยเสียงหรือ Voice Recognition จะเติบโตขึ้นภายในปี 2020 เพราะมันง่ายต่อการค้นหามากกว่าการพิมพ์เป็นข้อความ โดยเฉพาะหากคุณกำลังเดินข้ามถนน ขับรถ ป้อนอาหารทารก ฯลฯ ซึ่งธุรกิจในอนาคต จำเป็นต้องปรับตัวและผลิตเนื้อหาออนไลน์ ให้เหมาะสมกับการค้นหาด้วยเสียง ไม่ใช่แค่คำหลักหรือ keyword เท่านั้น แต่เป็นประโยคที่สมบูรณ์ เพราะการค้นหาด้วยเสียง จะไม่ใช่การพูดแค่ keyword

  1. ใช้ประโยชน์จาก Big Data

Big Data คือการพยายามสร้างมูลค่าของธุรกิจจากการนำเอาข้อมูลจำนวนมาก ทั้งภายในและภายนอกองค์กร มาวิเคราะห์ประมวลผล ไม่ใช่แค่เก็บไว้เฉยๆ เป็นการสร้างทักษะและความรู้ให้กับทีมงานในองค์กร เพื่อให้สามารถจัดการข้อมูลปริมาณขนาดใหญ่ และเข้าใจเชิงลึกถึงข้อมูลขนาดใหญ่นั้นได้อย่างกระจ่าง ซึ่งหากองค์กรธุรกิจมีคลังข้อมูลเก็บไว้ ก็จะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถดำเนินการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. 5G มาแรง เจนเนอเรชั่นใหม่ของเทคโนโลยีไร้สาย

เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายน้องใหม่ 5G จะเข้ามาแทนที่ระบบ 4G และคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวทั่วโลกภายในปี 2020 ซึ่งต่อไปจะไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟน แต่เป็นอุปกรณ์ไร้สายทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ว่ากันว่า 5G ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดโดยเฉลี่ยประมาณ 1 Gbps (กิกะบิต) ด้วยความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูงมาก จึงทำให้การโต้ตอบบนอินเตอร์เน็ตรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่รองรับกลุ่มผู้ชมที่ชอบดูวีดิโอแบบไม่มีสะดุดกันเลยทีเดียว