ระบบโทรศัพท์สำนักงานถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1876 (พ.ศ. 2419) โดย Alexander Graham Bell นักวิทยาศาสตร์เจ้าของบริษัท Bell Telephone
องค์ประกอบของระบบโทรศัพท์ในยุคของ Bell นั้น จะต้องประกอบด้วยเครื่องโทรศัพท์ 2 เครื่องที่วางห่างกัน มีสายไฟฟ้าเชื่อมต่อระหว่าง 2 เครื่อง และสามารถสื่อสารถึงกันได้โดยใช้หลักการเปลี่ยนสัญญาณเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งไปตามสายไฟฟ้า เมื่อถึงปลายทาง สัญญาณไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณเสียง
โดยโทรศัพท์ยุคแรกของ Bell ยังไม่มีระบบชุมสายโทรศัพท์เข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถใช้โทรระยะไกลได้ในระยะทางประมาณ 6 ไมล์ อย่างไรก็ตาม ระบบโทรศัพท์ของ Bell นั้น ประสบปัญหาตรงที่ หากใช้สายส่งที่ยาวมาก จะไม่สามารถได้ยินเสียงของต้นสาย ถัดมาอีก 1 ปีหรือปี 1877 Thomas Alva Edison ได้ประดิษฐ์ตัวส่งสัญญาณขึ้นมาใหม่หรือที่เรียกว่า ‘Carbon Transmitter’ ทำให้กระแสไฟฟ้าแรงขึ้น ส่งผลให้ส่งสัญญาณเสียงส่งได้ไกลและชัดขึ้นกว่าเดิม
ต้นปี 1900 ประชากรเกือบ 6 ล้านคน ใช้ระบบโทรศัพท์ของ Bell และในปีเดียวกันนั้น การโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศทำได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยครั้งนั้นเป็นการโทรจากอเมริกาไปคิวบา ในปี 1960 ระบบโทรศัพท์สำนักงาน เริ่มมีการพัฒนาไปสู่การใช้พนักงานรับสาย และมีการคิดค้นระบบโทรศัพท์แบบตู้สาขา PABX (Private Automatic Branch Exchanges) หรือระบบชุมสายโทรศัพท์ย่อย เพื่อใช้ภายในองค์กร ทำให้ในองค์กรมีเบอร์โทรศัพท์หรือเบอร์ต่อภายใน ซึ่งได้เพิ่มความคล่องตัวและลดค่าใช้จ่ายในการโทร เนื่องจากตู้สาขา PABX ไม่จำเป็นต้องใช้สายโทรภายนอกในการสื่อสารภายในองค์กร
ในระหว่างปี 1970 การโทรทางไกลระหว่างประเทศโดยใช้โทรศัพท์มือถือเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพการโทรในยุคนั้น จะไม่ทันสมัยเท่ากับยุคปัจจุบัน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเรื่องการสื่อสารครั้งใหญ่เลยทีเดียว จนในที่สุด ระบบไฟฟ้าอัตโนมัติและสวิตซ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็เริ่มเข้ามาแทนที่แผงสวิตซ์แบบ Manual (หรือเรียกว่าเป็นรุ่นพ่อของระบบ PABX) เพื่อพัฒนามาสู่การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตั้งแต่ต้นปี 1980 ทำให้สามารถส่งต่อข้อมูลระหว่างโทรศัพท์ไปสู่คอมพิวเตอร์ PC ได้สำเร็จ กระทั่งเข้าสู่ยุค 1990 เมื่อเทคโนโลยี VoIP ถูกคิดค้นขึ้นเนื่องจากความก้าวหน้าของอินเตอร์เน็ต VoIP (Voice over Internet Protocal) หรือการสื่อสารทางเสียงผ่านอินเตอร์เน็ตกลายเป็นระบบโทรศัพท์สำนักงานที่เป็นที่รู้จักและค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจาก VoIP สามารถเปลี่ยนสัญญาณเป็นเสียงได้จากอุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เช่น โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ PC ฯลฯ อีกทั้งไม่จำเป็นต้องเดินสายโทรศัพท์หรือติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์อีกต่อไป
ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในปัจจุบัน ทำให้ระบบโทรศัพท์ VoIP ได้รับความต้องการใช้งานที่สูงขึ้น และกลายเป็นมาตรฐานของระบบโทรศัพท์สำนักงานที่ทันสมัย สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบจากที่ใดก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต ทำให้สื่อสารกันได้กว้างขวางมากขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ประชุมทางเสียง, Voice Mail, Call Center ฯลฯ
จากจำนวนของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น ระบบโทรศัพท์จึงค่อยๆ พัฒนาและผสมผสานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อย่างกลมกลืน แม้ว่าการพัฒนาระบบโทรศัพท์จะเดินทางมายาวไกล นับตั้งแต่ยุคแรกของ Bell แต่เชื่อเถอะว่าระบบโทรศัพท์จะยังคงพัฒนาเรื่อยไป ตราบเท่าที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังคงดำเนินต่อ
อ้างอิงข้อมูล :