ระบบโทรศัพท์สำนักงาน ในยุคนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่มีฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ที่พัฒนาให้กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาด มีระบบการให้บริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความเป็น Brand Loyalty
ระบบโทรศัพท์สำนักงาน จึงเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจต้องเลือกให้เหมาะสมและความจำเป็นสำหรับองค์กร เพราะจะว่าไปแล้ว การติดตั้งระบบโทรศัพท์แต่ละครั้ง เรามักใช้งานกันยาวนานหลายปี จึงควรเลือกระบบที่ใช้ ตอบโจทย์ และคุ้มค่ามากที่สุด
ทุกวันนี้ โทรศัพท์จึงเปรียบเสมือนปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งรวมความบันเทิง เป็นเพื่อนคลายเหงา และยังใช้ทำงาน สั่งงาน รวมไปถึงทำธุรกรรมต่างๆ ได้มากมาย จนเราแทบไม่ต้องกระดิกตัวไปไหนเลยทีเดียว
โทรศัพท์ ถูกจดสิทธิบัตรครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดย Alexander Graham Bell ในปี ค.ศ. 1876 หลักการสำคัญของโทรศัพท์ในยุคนั้นมีเพียงตัวส่งและตัวรับ ภายหลังได้มีผู้นำโทรศัพท์ไปพัฒนาต่อจนกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างในปัจจุบัน สำหรับเมืองไทยนั้น มีการนำโทรศัพท์มาใช้งานครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 หรือปี พ.ศ. 2424 ที่กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ โทรศัพท์ในยุคนั้นเป็นเครื่องโทรศัพท์ระบบแม็กนีโตหรือระบบไฟประจำเครื่อง ซึ่งเป็นระบบแบบ Manual ต้องมีพนักงานคอยต่อชุมสาย และทุกเครื่องโทรศัพท์จะมีแบตเตอรี่ในตัว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ YaleCom จะมาแนะนำโทรศัพท์สำนักงาน ที่นิยมใช้ในองค์กร ซึ่งเราได้รวบรวมมาทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
- โทรศัพท์ระบบอนาล็อก (Analog Phone System)
เป็นโทรศัพท์แบบตั้งโต๊ะระบบพื้นฐาน ที่ทำการส่งสัญญาณผ่านสายทองแดง ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคแรกของการมีโทรศัพท์จนถึงปัจจุบันก็ยังพบได้ทั่วไปในโทรศัพท์บ้านยุคเก่า โทรศัพท์สำนักงาน ห้างร้านต่างๆ การทำงานของโทรศัพท์ระบบอนาล็อกจะมีสายเสียบเข้ากับชุมสายโทรศัพท์อีกที และใช้ไฟเลี้ยงจากชุมสายโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว สามารถใช้งานได้แม้ไฟดับ อีกทั้งใช้งานได้เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ และไม่มีปัญหาเรื่องช่องสัญญาณเต็ม ข้อเสียของโทรศัพท์ประเภทนี้ อยู่ตรงที่หากต้องการเพิ่มคู่สายโทรศัพท์ เปลี่ยนตำแหน่งหรือเคลื่อนย้ายตัวโทรศัพท์ จะมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องติดตั้งใหม่ จึงเหมาะสำหรับใช้งานตามบ้าน ร้านค้าที่มีแนวโน้มจะมีการต่อสายภายใน
- โทรศัพท์สำนักงานระบบดิจิตอล (Digital Phone System)
เป็นระบบโทรศัพท์ที่ถูกพัฒนาขึ้นราวปี ค.ศ. 1970 แตกต่างจากโทรศัพท์ระบบอนาล็อกคือ ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่านสายทองแดงอีกต่อไป แต่ส่งสัญญาณสายโทรศัพท์ สายสำหรับส่งข้อมูลผ่านตู้สาขาโทรศัพท์หรือ PBX (Private Branch Exchange) ของตัวเอง เรียกว่าเป็นระบบชุมสายโทรศัพท์ย่อยที่มีใช้เฉพาะภายในบริษัทหรือหน่วยงานนั้นๆ หรือเบอร์ติดต่อภายใน/เบอร์ต่อโต๊ะ หลักการทำงานจะเปลี่ยนสัญญาณเสียงแบบอนาล็อกไปเป็นสัญญาณเสียงแบบดิจิตอล โทรศัพท์แบบดิจิตอลนั้น หากต้องการเคลื่อนย้ายตำแหน่งโทรศัพท์ ต้องให้ช่างเข้ามาติดตั้งเบอร์ใหม่ จึงอาจทำให้เสียเวลาหรือการทำงานหยุดชะงักไปบ้าง
- โทรศัพท์สำนักงานระบบ VoIP (Voice over Internet Protocal)
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของโทรศัพท์ระบบดิจิตอล และถือเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดเมื่อเทียบกับทั้ง 3 ระบบที่กล่าวมา โดยระบบโทรศัพท์ VoIP ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อไม่นานมานี้หรือประมาณปี ค.ศ. 1995 หลักการทำงานเป็นการเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านระบบ Internet Protocol หรือ IP ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งครั้งแรกที่สูงกว่าระบบอื่น แต่ในระยะยาวค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่า เนื่องจากเป็นโทรศัพท์ที่ใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตแทน ไม่มีค่าบำรุงซ่อมแซมรักษาเหมือนตู้สาขาโทรศัพท์ โทรฟรีในเครือข่ายเดียวกัน ติดต่อกันได้ทั้งภายในและภายนอกประเทศ นอกจากนี้ ยังรองรับระบบ Call Center ระบบตอบรับอัตโนมัติ ตลอดจนเชื่อมต่อ CRM และ ERP แสดงชื่อลูกค้าเมื่อมีการโทรเข้า บันทึกเสียงสนทนา เป็นต้น โทรศัพท์สำนักงานระบบ VoIP นี้ เหมาะกับธุรกิจที่มีหลายสาขาหรือมีสำนักงานหลายแห่ง อยู่ไกลหรือคนละจังหวัด เนื่องจากรองรับการติดต่อได้กว้างไกลและเสียงคมชัด
YaleCom รองรับการให้บริการโทรศัพท์สำนักงานระบบ VoIP ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีบน Cloud นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังมีแนวโน้มในการเชื่อมต่อกับธุรกิจอื่นๆ ได้อีกมากมายในอนาคต อ่านเพิ่มเติมที่ เทคโนโลยีบน Cloud กับ อนาคตที่สดใสของการเชื่อมต่อธุรกิจ